ปัญญา คือ แสงสว่างของชีวิต โดยเฉพาะปัญญาความรอบรู้ และเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรม จะเป็นแสงสว่างส่องนำทางชีวิต ให้สามารถดำเนินไปในสังสารวัฏได้ถูกต้องปลอดภัย การจะมีปัญญาอย่างนี้ได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีครูดี ที่สามารถสอนให้เข้าใจถึงความเป็นจริงของชีวิตได้ ต้องมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น พระพุทธองค์ทรงเป็นบรมครูประเภทนี้ ที่ทรงประกาศพระสัทธรรม แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายตลอด ๔๕ พรรษาหลังจากตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อไม่ให้ประมาทในการดำเนินชีวิต ทรงใช้หลักอนุสาสนีปาฏิหารย์ คอยกระตุ้นให้สรรพสัตว์รักในการเจริญสมาธิภาวนา เพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ดังนั้น เราต้องเป็นพุทธบริษัทที่ดี ให้สมกับความมีโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นสาวกของพระองค์ ด้วยการหมั่นทำใจหยุดใจนิ่งให้ได้ทุกวัน เพราะวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ชีวิตเรา มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์
มีธรรมภาษิตที่ปรากฏในเถรคาถาปทาน ว่า
“ผู้ใดเป็นธีรชน เป็นผู้รู้ถ้อยคำของครูทั้งหลาย อยู่ในโอวาทของครู และยังความเคารพให้เกิดในโอวาทของครู ผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้ภักดี ชื่อว่าเป็นบัณฑิต และพึงเป็นผู้วิเศษ เพราะรู้ธรรมทั้งหลาย อันตรายอันร้ายแรงย่อมไม่เกิดขึ้นแก่เขา บุคคลนั้นชื่อว่ามีกำลัง ชื่อว่าเป็นบัณฑิต และพึงเป็นผู้วิเศษเพราะรู้ธรรมทั้งหลาย”
การมีความเคารพเชื่อฟังต่อครูอาจารย์ เป็นปัจจัยสำคัญต่อการแสวงหาความรู้ใส่ตัว เพราะครูเปรียบเสมือนแสงสว่างส่องนำทาง คอยแนะนำพรํ่าสอนให้ลูกศิษย์ได้เข้าใจในศาสตร์ต่างๆ การตระหนักถึงคุณค่าของครูอาจารย์ ที่จะมาประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ลูกศิษย์จะต้องมีความเคารพในวิชาที่เรียนและครูที่มาสอน ด้วยการตั้งใจศึกษา ตั้งใจฟัง ตั้งใจจำ และนำไปปฏิบัติ เมื่อมีโอกาสก็แสดงความเคารพต่อท่านทั้งทางกาย วาจา และใจ ทั้งต่อหน้า และลับหลัง เมื่อจะศึกษาเรื่องใดก็ศึกษาให้ถึงแก่น ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งให้กับตนเองได้ในภายภาคหน้า
บัณฑิตนักปราชญ์แม้ท่านจะมีความรู้มากอยู่แล้ว ท่านจะเพิ่มคุณธรรมให้สูงขึ้น ด้วยการมีความเคารพเชื่อฟังในครูบาอาจารย์ จะไม่ดูถูกดูแคลนครูของตน และชีวิตของผู้อยู่ในโอวาทของครูจะไม่มีวันตกต่ำ แล้วความรู้ใดๆที่ครูมี จะได้รับการถ่ายทอดอย่างเต็มที่ โดยจะไม่ปิดบังอำพรางเลย เพราะฉะนั้น ศิษย์ที่เชื่อฟังคำของครู จะประสบแต่ความสำเร็จในชีวิตในธุรกิจการงานได้โดยง่าย
ส่วนในทางธรรม หากเป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะต้องมีความเคารพ ต้องเป็นผู้ยึดมั่นในคำสอนของพระบรมศาสดา ด้วยการไม่ทำความชั่วทุกชนิด ทำแต่สิ่งที่เป็นความดีเป็นบุญเป็นกุศล เพื่อใจจะได้ไม่ไหลลงสู่บาปธรรม ซึ่งเป็นของต่ำทราม และที่สำคัญจะต้องทำจิตให้ผ่องใส เพื่อจะได้หลุดพ้นจากอาสวกิเลส สาวกองค์ไหนที่ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่เคารพในคำสอนของครูอย่างแท้จริง เหมือนดังเรื่องของพระอรหันตเถระชื่อว่า โกสิยะ ที่ท่านสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต จากปุถุชนมาเป็นพระอรหันต์ได้ เพราะท่านอยู่ในโอวาทของครูอาจารย์
หลายกัปที่ผ่านมา พระโกสิยเถระท่านได้สั่งสมบุญบารมีอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมาโดยลำดับ ทั้งทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา มากบ้างน้อยบ้าง แต่ท่านทำอย่างสมํ่าเสมอไม่เคยได้ขาด แม้ในบางโอกาสของชีวิตที่มีทรัพย์น้อย ท่านก็ทำอย่างเต็มกำลัง ไม่เคยท้อถอย ท่านเป็นยอดนักสร้างบารมี ที่เป็นทั้งต้นบุญและต้นแบบของพุทธมามกะในทุกยุคทุกสมัย
ต่อมาในยุคของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี ท่านได้บังเกิดในตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งประจำหมู่บ้าน ณ เมืองพันธุมดี พอเติบโตเป็นหนุ่ม ได้สมัครงานเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ใครที่จะเข้าจะออกประตูเมือง จะต้องผ่านการตรวจสอบจากท่านก่อน วันหนึ่งขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ท่านได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีฉัพพรรณรังสีอันสว่างไสว ได้เสด็จเข้ามาโปรดชาวเมือง จึงปลื้มปีติเป็นอย่างมาก อยากจะทำบุญกับพระพุทธองค์ แต่ในขณะนั้น ท่านมีเพียงอ้อยท่อนเดียวเท่านั้น และเกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้พบพระพุทธองค์อีก จึงรีบนำอ้อยท่อนนั้น น้อมถวายพระพุทธองค์ทันที เมื่อพระบรมศาสดารับท่อนอ้อยแล้ว จึงเสด็จไปโปรดชาวเมืองต่อไป
ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองผู้มีใจงดงามนี้ พอได้ทำบุญแล้ว ปลื้มปีติเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีโอกาสตามระลึกถึงบุญนี้อยู่เป็นประจำ นึกถึงทีไรจะปลื้มปีติทุกครั้งไป ปลื้มจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตทีเดียว คือ ชีวิตของคนๆ หนึ่ง ในแต่ละชาติที่มีโอกาสได้ทำบุญใหญ่ หรือบุญที่พิเศษๆ นั้น มีเพียงไม่กี่ครั้ง แต่บุญที่ปลื้มเป็นพิเศษจะมีแต่บุญที่ตนทำแล้วประทับใจไม่รู้ลืมเท่านั้น ด้วยบุญที่หนุ่มตรวจคนเข้าเมืองได้ทำเอาไว้ดีแล้ว จึงประคับประคองให้ท่านเวียนว่ายตายเกิดในสุคติภูมิ และในระหว่างเวียนว่ายตายเกิดนั้น ท่านได้สั่งสมบุญในด้านต่างๆ อันเป็นอุปนิสัยแห่งการบรรลุมรรคผลนิพพานไปด้วย
พอมาในยุคพุทธกาล ท่านถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์ มีชื่อว่าโกสิยะ เมื่ออยู่ในวัยเด็กมีอัธยาศัยใฝ่ศึกษา ท่านไปเรียนธรรมะกับพระสารีบุตรเถระซึ่งเป็นอัครสาวกเบื้องขวา ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายด้านปัญญา เมื่อได้ศึกษาธรรมะมากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน ทำให้มีปัญญา สามารถพิจารณาถึงความเป็นจริงของชีวิตว่า เป็นของไม่เที่ยง เต็มไปด้วยความทุกข์ ไร้สาระแก่นสาร ในที่สุด ท่านจึงตัดสินใจออกบวชโดยมีพระสารีบุตรเถระเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชแล้วได้คอยปรนนิบัติรับใช้ไม่ห่าง ทำตามที่พระอุปัชฌาย์สอนสั่งโดยไม่มีมานะทิฐิ ท่านเป็นผู้ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ให้ความเคารพพระเถระทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขณะเดียวกัน เป็นผู้ที่ใฝ่ในการทำสมาธิภาวนาเป็นพิเศษ เมื่อมีข้อขัดข้องสงสัยในเรื่องการทำใจหยุดนิ่ง พระเถระจะแนะนำให้เข้าใจ เพียงไม่กี่วันหลังจากบวช ท่านสามารถขจัดอาสวกิเลส จนได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
ความเคารพต่อครูบาอาจารย์ ทำให้ชีวิตพบกับความสว่างไสว เพราะได้อาศัยครู จึงอุ้มชูให้บรรลุมรรคผลนิพพาน ครู คือ บุคคลสำคัญของโลกสำหรับศิษย์ทุกๆ คน เพราะเป็นผู้ให้อริยสมบัติที่ยิ่งกว่าสมบัติจักรพรรดิ ที่กินใช้เท่าไรไม่รู้หมดสิ้น ศิษย์ที่มีครูดีและเคารพเชื่อฟัง ดำรงตนอยู่ในโอวาท ย่อมสามารถพัฒนาจิตใจให้สูงส่งได้โดยไม่ยาก
ในยุคปัจจุบัน เราจะสังเกตเห็นว่า นักเรียนไม่ค่อยให้ความเคารพต่อครูอาจารย์เท่าที่ควร บางคนเปรียบเปรยครูว่าเป็นเหมือนเรือจ้าง คือ เห็นเพียงแค่ว่า ครู คือ ลูกจ้าง ที่ถูกจ้างให้มาสอนหนังสือ มีเงินเดือนที่เกิดจากตัวเองได้จ่ายค่าเทอม จึงไม่ให้ความเคารพ ใครที่คิดอย่างนี้ ขอให้คิดใหม่ เพราะถือว่าเป็นการลบหลู่ครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาให้เรา อาจารย์ที่สอนด้วยจิตวิญญาณ ไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง และไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบาก ปรารถนาอยากให้ลูกศิษย์มีความรู้คู่คุณธรรม เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ที่ดีของลูกศิษย์นั้น ยังมีอยู่มาก ถ้าเราเป็นผู้เปี่ยมล้นด้วยความเคารพ ท่านจะสอนเราอย่างหมดภูมิทีเดียว นอกจากสอนวิชาการที่ท่านได้ศึกษาค้นคว้ามาทั้งชีวิตแล้ว ยังจะสอนให้เรามีคุณธรรม เป็นคนดีที่โลกต้องการ เป็นคนเก่งและดีอีกด้วย
บัณฑิตนักปราชญ์ในสมัยก่อน ท่านมีความเคารพในครูอาจารย์มาก เมื่อเรียนศิลปวิทยาจะตั้งใจศึกษาด้วยความเคารพ ทำให้สามารถเรียนรู้จนหมดภูมิรู้ของครูอาจารย์ ดูอย่างพระบรมโพธิสัตว์ของเรา ขณะที่กำลังบำเพ็ญปัญญาบารมีอยู่นั้น เมื่อท่านจะศึกษาความรู้จากใคร แม้พระองค์จะเป็นถึงพระราชา ส่วนผู้สอนเป็นเพียงคนจัณฑาลมีฐานะต่ำต้อย แต่ทรงรับฟังและเรียนด้วยความเคารพ ทำให้พระองค์เป็นประดุจมหาสมุทรแห่งปัญญา เพราะฉะนั้น พวกเราผู้เป็นพุทธสาวกก็เช่นกัน ต้องมีความเคารพต่อครูอาจารย์ จะได้เป็นทางมาแห่งปัญญาอันสว่างไสว มีความสุขความเจริญในชีวิตยิ่งๆ ขึ้นไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น