วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

ผู้ไม่ว่างเว้นจากการสร้างบารมี

ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง เพราะเป็นเวลาที่เราจะได้เพิ่มเติมความสุขความสำเร็จให้แก่ชีวิต ด้วยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นสัจธรรมที่นำมาซึ่งความสุขและความหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวล ทุกวันนี้มนุษย์กำลังสับสน ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต เมื่อไม่ได้ฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชีวิตจึงต้องเวียนวนอยู่ในกระแสแห่งความทุกข์ระทม เหมือนถูกตรึงด้วยเครื่องพันธนาการ ยากจะสลัดออกได้ ต่อเมื่อได้ฟังพระสัทธรรม จึงจะเข้าใจความเป็นจริงของชีวิต และสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ชีวิตได้อย่างแท้จริงกัน

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในขุททกนิกาย ภูริปัญหาชาดกว่า

น ปณฺฑิตา อตฺตสุขสฺส เหตุ

ปาปานิ กมฺมานิ สมาจรนฺติ

ทุกฺเขน ผุฏฺฐา ขลิตาปิ สนฺตา

ฉนฺทา จ โทสา น ชหนฺติ ธมฺมํ

บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่ประพฤติกรรมอันเป็นบาป ถูกความทุกข์กระทบแล้ว แม้จะพลาดพลั้งไปก็สงบอยู่ได้ ไม่ละทิ้งธรรมเพราะความรักและชัง”

*มก. ขทิรังคชาดก เล่ม ๕๕/๓๖๕

*การสร้างบารมี เป็นหน้าที่หลักของเราในการเกิดมาแต่ละภพแต่ละชาติ ในช่วงเวลาที่กำลังสร้างบารมีอยู่นั้น บางครั้งเรา ก็พบเจอกับความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะหนทางการสร้างบารมีมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ อุปสรรคที่เกิดขึ้นจะหล่อหลอมให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็ง และเป็นเครื่องทดสอบกำลังใจว่า เรามีหัวใจของยอดนักสร้างบารมีเต็มเปี่ยมแค่ไหน สำหรับผู้มีอุดมการณ์ที่มั่นคง มีมรรคผลนิพพานเป็นแก่นสาร ก็จะไม่หวั่นไหวในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นมา เพื่อทดสอบและส่งเสริมการสร้างบารมีของเราให้เข้มข้นยิ่งขึ้น หากเราไม่หวั่นไหว อุปสรรคก็จะไหวหวั่นและย่อท้อต่อเราไปเอง

พระบรมโพธิสัตว์ ทุกภพทุกชาติที่สร้างบารมี ท่านก็เอาชีวิตเป็นเดิมพันทุกครั้งไป แม้จะพบเจออุปสรรคมากมายก็ไม่เคยคิดท้อแท้หรือเบื่อหน่ายคลายความเพียร ท่านไม่เคยยอมให้ชีวิตว่างเว้นจากการสร้างบารมีเลย จะแสวงหาบุญอยู่ตลอดเวลา และเมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ท่านจะตั้งสติมั่น ใช้ปัญญาแก้ไขแล้วก็ฝ่าฟันเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ทุกครั้งไป จนได้มาเป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา

ยอดนักสร้างบารมีที่แท้จริง จะไม่เสียเวลามาคิดคำนึงถึงสิ่งที่ทำให้ท้อแท้ หรือวิตกกังวลใดๆ ทั้งสิ้น จะไม่ยอมให้อุปสรรคมาเป็นกำแพงขวางกั้นการสร้างบารมี แต่จะมองข้ามอุปสรรคเหล่านั้นเสีย หากรู้ว่าวิธีการใดเป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น แม้ชีวิตท่านก็ยอมสละได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรที่จะมาขัดขวางการสร้างบารมีของท่านได้ เพราะเมื่อใจเราใหญ่ โลกก็เหลือใบนิดเดียวเท่านั้น

พวกเราเองก็เป็นยอดนักสร้างบารมี มีใจของพระบรมโพธิสัตว์ ที่ปรารถนาจะเห็นชาวโลกและสรรพสัตว์พ้นจากความทุกข์ เมื่อเราได้อัตภาพของความเป็นมนุษย์ พร้อมที่จะสร้างบารมีได้ดีที่สุดอย่างนี้แล้ว จึงไม่ควรปล่อยให้โอกาสดีนี้ผ่านเลยไป ควรใช้โอกาสนี้สร้างบารมีให้เต็มที่ โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ให้เอาอย่างนักสร้างบารมีในกาลก่อน ที่มีใจมั่นคงยิ่งกว่าขุนเขา แม้มีผู้มาบอกให้เลิกทำความดี และกำลังประสบความทุกข์ยากลำบาก ก็ไม่ว่างเว้นจากการสร้างบารมี

เหมือนท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้เป็นยอดอุปัฏฐากฝ่ายชายที่มีความศรัทธามั่นในพระพุทธศาสนา ถึงกับเอาเงินไปปูเต็มพื้นดิน เพื่อแลกกับพื้นที่ที่จะสร้างวัดเชตวัน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างถึง ๕๔ โกฏิ เมื่อสร้างวัดเสร็จแล้ว ท่านหมั่นไปวัดถวายสังฆทาน ฟังธรรมมิได้ขาด โดยไม่เคยไปมือเปล่าเลย ทานทั้งหลายที่ท่านบริจาคนั้น มากมายเกินที่จะคณานับ

ด้วยความใจใหญ่กล้าคิด และทุ่มเทให้กับงานพระศาสนาเทวดาที่สิงสถิตอยู่ที่ซุ้มประตูบ้าน กลัวว่าทรัพย์สมบัติของท่านจะหมด จึงคอยหาโอกาสบอกให้ท่านเลิกไปวัด เลิกถวายทานแด่ภิกษุสงฆ์ พอดีในช่วงนั้น ท่านเศรษฐีสมบัติขาดมือพอดี การค้าขายไม่คล่องตัว เงินทองที่เพื่อนยืมไปก็ไม่ได้คืน ทรัพย์ที่ฝังไว้ริมตลิ่งก็ถูกน้ำพัดพาไป ท่านเศรษฐีจึงยากจนลง แต่ท่านก็ยังอุตส่าห์ถวายทานไม่ได้ขาดเลย แม้จะมีเพียงน้ำผักดองกับข้าวปลายเกรียน ก็ยังคงทำทานตามปกติ

เทวดาได้โอกาสจึงปรากฏกายอยู่ต่อหน้าท่านเศรษฐี พูดเตือนไปว่า “ท่านเศรษฐี ท่านอย่าได้ทำทานอีกต่อไปเลย ตั้งแต่เข้าวัดมา ก็มีแต่ยากจนลง ท่านไม่ได้อะไรเลย ควรหันกลับมาเร่งรีบทำธุรกิจเพื่อจะได้ทรัพย์สมบัติกลับคืนมาบ้าง จงเลิกทำบุญเสียเถิด”

เศรษฐีพอได้ฟังเช่นนั้น แทนที่จะเชื่อฟังคำของเทวดา กลับบอกเทวดาว่า “ท่านเป็นถึงเทวดา ทำไมมาบอกให้เราเลิกทำบุญ ท่านจงออกไปจากบ้านของเราเสียเถิด เราจะไม่ยอมเลิกทำบุญเป็นอันขาด” เทวดาเมื่อโดนขับไล่เช่นนั้น จึงไม่มีวิมานอยู่ เพราะตัวเองมีบุญน้อย เกิดรู้สึกสำนึกผิด จึงไปขอร้องให้เทวดาชั้นต่างๆ มาช่วยพูดกับท่านเศรษฐีให้ท่านยกโทษให้ แต่เทวดาเหล่านั้นก็ไม่สามารถจะช่วยได้

พระอินทร์จึงแนะวิธีว่า ถ้าอยากให้เศรษฐียกโทษให้ ต้องไปทวงหนี้คืนให้ท่านเศรษฐี แล้วไปเอาทรัพย์ที่ถูกน้ำพัดไปกลับคืนมา และยังมีสมบัติที่อยู่ใต้ทะเลอีกมากมาย ให้ไปขนมาให้เศรษฐีได้ทำบุญต่อ แล้วเศรษฐีจะยกโทษให้ เทวดาตนนั้นจึงทำตามที่พระอินทร์บอกทุกอย่าง แล้วกลับมาบอกท่านเศรษฐี พร้อมทั้งขอให้ยกโทษให้แก่ตนด้วย เพราะที่พูดไปอย่างนั้นก็ด้วยความเป็นห่วงท่านเศรษฐี

อนาถบิณฑิกเศรษฐียกโทษให้ เทวดาจึงได้มีวิมานอยู่ตามเดิม เรื่องทราบถึงพระบรมศาสดา พระองค์จึงตรัสชมเชยท่านเศรษฐีว่า ทำถูกต้องแล้ว สมกับเป็นยอดนักสร้างบารมีจริงๆ แม้จะทำทาน เพียงน้ำผักดองกับข้าวปลายเกรียนก็ได้บุญมาก ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระรัตนตรัยนั้น ทักษิณาทานชื่อว่ามีผลมาก ท่านเศรษฐีแม้จะยากจนลง ก็ไม่เคยหวั่นไหวและไม่เคยว่างเว้นจากการสร้างบารมี ได้ชื่อว่าทำตามอริยประเพณีอันดีงามแล้ว

แม้พระองค์เอง ในสมัยที่ยังบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ ถึงจะยากจนข้นแค้นอย่างไร ก็ไม่เคยเลิกล้มการทำความดีเลย แม้มีหญ้าคาเพียงมัดเดียว เมื่อถูกขอก็ไม่ได้ปฏิเสธ แม้จะถูกพญามารขัดขวางไม่ให้ทำทาน พร้อมทั้งขู่ว่า ถ้าขืนให้ทานอยู่อย่างนี้ จะต้องตกหลุมถ่านเพลิงลึกถึง ๘๐ ศอก พระองค์ก็ไม่เคยหวั่นไหว เพราะความเป็นผู้มีใจเด็ดเดี่ยวในการสร้างบารมีนี้เอง จึงทำให้พระองค์ได้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ

เพราะฉะนั้น ให้เรารู้ไว้เถิดว่า หากเงินทองที่เคยมีใช้จ่าย-อย่างสะดวกสบาย กลับหาได้ยาก และอุปสรรคต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา ทำให้เราท้อแท้ แสดงว่าบุญในตัวของเรายังพร่องอยู่ เป็นนิมิตหมายว่าเราจะต้องรีบสั่งสมบุญเพิ่มเติม อย่าได้ท้อแท้หรือตกใจ ให้ใช้สติและปัญญาแก้ไข เพราะอุปสรรคมีไว้ให้แก้ ปัญหาทุกปัญหาล้วนมีทางแก้ไข จะแก้ไขได้ด้วยปัญญาที่เกิดจากการทำใจหยุดใจนิ่งดีแล้วนี่แหละ

นักสร้างบารมีที่แท้จริง จะต้องไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคใดๆ ที่เกิดขึ้น ใจจะมุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว เพราะเป้าหมายของเราคือ การนำตนและสรรพสัตว์ เข้าสู่จุดหมายปลายทางคือที่สุดแห่งธรรม ซึ่งจะต้องอาศัยกำลังบุญมากและใจต้องใหญ่ ต้องกล้าคิด กล้าพูด และกล้าทำ ถ้าเรามั่นคงในปณิธานเป้าหมายอันสูงส่งของเรา ความท้อแท้จะไม่บังเกิดขึ้นในใจเลย

คราใดที่เราท้อแท้หรือสิ้นหวัง ให้นึกถึงบุญภายในตัวที่เราได้สั่งสมมา และภาพอันงดงามที่เราเคยสร้างบารมีกันมา ให้นำใจมาหยุดไว้ที่ศูนย์กลางกาย ซึ่งเป็นแหล่งแห่งพลังบุญพลังบารมีที่แท้จริง ใจจะชุ่มฉํ่าเยือกเย็นอยู่ภายใน เปลี่ยนจากใจที่สับสน มาเป็นดวงใจที่หยุดนิ่ง จากที่วุ่นว่ายเร่าร้อน คืนสู่ความสงบสุขเยือกเย็น แล้วเราจะมีกำลังใจ เมื่อนำใจมาหยุด ณ ที่ตรงนี้ ซึ่งเป็นที่ๆ ดีที่สุด เป็นการเพิ่มเติมบารมีให้แก่ตัวของเราเองกัน

ไม่มีความคิดเห็น: