วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑

ครอบครัวแก้ว

ความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ ทุกคนเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญสร้างบารมี เมื่อมีโอกาสว่างเว้นจากภารกิจการงาน การศึกษาเล่าเรียน ควรหมั่นฝึกฝนใจให้หยุดให้นิ่ง ให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในกันให้ได้ ชีวิตเราจึงจะปลอดภัย ยิ่งถ้าเราศึกษาธรรมะให้ละเอียดลึกซึ้ง เราจะได้รู้จักความเป็นจริงของชีวิตมากขึ้น ถ้าไปบังเกิดเป็นชาวสวรรค์จะมีความสุขในการเสวยทิพยสมบัติ ซึ่งเรื่องนรกสวรรค์นั้น ไม่ใช่เรื่องที่เอามาขู่หรือเอามาล้อกันเล่นๆ อย่างที่บางคนเข้าใจ แต่เป็นเรื่องที่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับชีวิตใหม่ในปรโลก เพราะทุกคนล้วนตายหมด ชีวิตหลังความตายยังมีสิ่งใหม่ๆ ที่เราต้องศึกษากันอีก ดังนั้น เราจึงควรเตรียมพร้อมด้วยการสั่งสมบุญ และตั้งใจฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งกันให้เต็มที่ ให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในกันให้ได้ทุกๆ คน

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในขุททกนิกาย ธรรมบท ความว่า

น อตฺตเหตุ น ปรสฺส เหตุ

น ปุตฺตมิจฺเฉ น ธนํ น รฏฺฐํ

น อิจฺเฉยฺย อธมฺเมน สมิทฺธิมตฺตโน

ส สีลวา ปญฺญวา ธมฺมิโก สิยา

บัณฑิตย่อมไม่ทำบาป เพราะตนเป็นเหตุ หรือเพราะผู้อื่นเป็นเหตุ บัณฑิตไม่พึงปรารถนาบุตร ทรัพย์ แว่นแคว้น และความสำเร็จเพื่อตน โดยไม่ชอบธรรม บัณฑิตพึงเป็นผู้มีศีล มีปัญญา ตั้งอยู่ในธรรม”

ธรรมดาว่าชีวิตของผู้ครองเรือนนั้น กว่าจะหาเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ มาสนองความต้องการของตนได้ หลายครั้งอาจต้องไปก่อบาปอกุศลกับผู้อื่น ท่านผู้รู้จึงไม่ให้ไปแสวงหาความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น บางคนคิดว่าจะมีความสุขต้องแต่งงาน มีครอบครัว กว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวให้เป็นครอบครัวสดใสได้นั้น ต้องเจอมรสุมมากมาย ต้องต่อสู้แก่งแย่งกัน ทำให้มีทั้งคู่แข่งและคู่แค้น บางคนบอกว่าทำเพื่อลูก แม้ไม่อยากทุศีลก็ต้องทุศีล ต้องไปเบียดเบียนผู้อื่น บางทีถึงขั้นต้องเอาชีวิตกันก็มี เพื่อหวังจะให้ครอบครัวของตนเจริญมั่งคั่ง แต่กลับต้องเป็นทุกข์หนักขึ้นไปอีก ต้องคอยหวาดระแวง เพราะมีศัตรูมาก บางคนต้องลักขโมยยักยอกทรัพย์ของคนอื่นมาเป็นของตน และบ่อยครั้งต้องพูดโกหก เพื่อให้ได้เงินทองมาหล่อเลี้ยงครอบครัว เพราะฉะนั้น การจะรักษาศีล ๕ ข้อให้บริสุทธิ์บริบูรณ์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการใช้ชีวิตการครองเรือนในสังคมยุคปัจจุบัน พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “ชีวิตการครองเรือนที่จะให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ประดุจสังข์ที่ขัดดีแล้วนั้นยากเหลือเกิน เพราะเป็นทางมาแห่งธุลีกิเลสทั้งหลาย ยากที่จะหาความยินดีได้ ต้องหวานอมขมกลืนใช้ความอดทนอย่างมาก”

เมื่อเราพิจารณาด้วยจิตที่เป็นกลาง เราจะเห็นว่าการครองเรือนมีความทุกข์เกิดขึ้นในทุกขั้นตอน เต็มไปด้วยเครื่องพันธนาการที่คอยเหนี่ยวรั้ง บัณฑิตผู้รู้ทั้งหลายจึงหาทางที่จะพ้นจากเครื่องพันธนาการเหล่านั้น และก็พบว่าชีวิตการบรรพชาหรือการบวชเป็นทางมาแห่งความบริสุทธิ์ เป็นการหาโอกาสว่าง เพื่อที่จะขจัดกิเลสอาสวะให้หลุดล่อนออกไปจากใจ เมื่อบวชแล้วจะได้ทำงานที่แท้จริง ที่เป็นกรณียกิจ กิจที่ควรทำอย่างยิ่ง คือ การประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อแสวงหาหนทางของพระนิพพาน

พระบรมศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ วัดพระเชตวัน ทรงปรารภพระธัมมิกเถระผู้เป็นแบบอย่างของการเป็นผู้นำครอบครัว เมื่อสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ทางโลก สามารถหาเงินทองมาหล่อเลี้ยงครอบครัวให้อยู่เป็นสุขได้อย่างเหมาะสม ครั้นบวชเข้ามาเป็นพระภิกษุ ก็เป็นสมณะแท้ ทำหน้าที่ของพุทธบุตรได้อย่างยอดเยี่ยม ท่านสามารถทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตร นำพาสมาชิกทุกคนในครอบครัว ให้มาอยู่ในร่มเงาของบวรพระพุทธศาสนา และได้บรรลุพระอรอรหันต์ บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิต คือ การได้บรรลุมรรคผลนิพพานกันทุกคน เรามาติดตามเรื่องราวของท่านกัน

*มก. พระเถระผู้ตั้งอยู่ในธรรม เล่ม ๔๑/๓๕๔

*ในสมัยพุทธกาล อุบาสกคนหนึ่งในกรุงสาวัตถี ได้แต่งงานมีคู่ครองจนมีบุตรชายเหมือนชาวโลกทั่วไป ได้ใช้หลักธรรมที่ตนเองได้ศึกษาจากการไปฟังธรรมที่วัดพระเชตวันเป็นประจำ มานำพร่ำสอนบุตรและภรรยา ทำให้ทุกคนในครอบครัวเป็นคนมีศีล มีกัลยาณธรรม ขณะเดียวกัน อุบาสกตระหนักดีว่าการอยู่ครองเรือนนั้น จะทำศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ยาก จะทำสมาธิเจริญภาวนาก็ไม่สะดวก จึงวางแผนชีวิตเอาไว้ว่า เมื่อไรที่ลูกชายเติบโตเป็นหนุ่ม สามารถดูแลตัวเองได้จะออกบวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง

วันหนึ่ง อุบาสกบอกความในใจที่ตัวเองได้ตั้งใจเอาไว้กับภรรยา ภรรยาจึงอนุโมทนาเห็นดีเห็นงามด้วย แต่ขอให้รออีกหน่อยจนกว่าบุตรชายจะเติบใหญ่เสียก่อน ท่านยินดีทำตามที่ภรรยาขอร้อง ต่อมาเมื่อบุตรเติบโตพอจะดูแลตัวเองได้ ท่านเอาเงินก้อนหนึ่งให้ภรรยาไว้เป็นค่าเลี้ยงดูบุตร และเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านเพื่อให้ลูกและภรรยาอยู่อย่างสะดวกสบาย จากนั้นจึงลาภรรยาไปบวช เมื่อบวชแล้ว ได้ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมอย่างเต็มที่ ท่านใช้เวลาพากเพียรพยายามอยู่ไม่กี่ปี สามารถทำกิจของสมณะให้สำเร็จได้บรรลุเป็นพระอรหันต์

จากนั้นได้กลับไปเมืองสาวัตถีอีก เพื่อต้องการโปรดลูกและภรรยา ท่านสอนทุกคนให้เห็นทุกข์และโทษของการครองเรือน รวมทั้งแสดงความทุกข์ในสังสารวัฏให้ทุกคนในครอบครัวได้เข้าใจ ลูกชายฟังแล้วรู้สึกศรัทธาในธรรมะที่พระพ่อได้พร่ำสอน จึงตัดสินใจออกบวชตามพระพ่อ บวชได้ไม่นานก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ ฝ่ายภรรยาคิดว่า “เมื่อสามีและลูกบวชกันหมดแล้ว การจะอยู่อย่างนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์” จึงตัดสินใจออกบวชในสำนักของภิกษุณี บวชได้ไม่นานก็บรรลุเป็นพระอรหันต์เช่นกัน

ต่อมาวันหนึ่ง ขณะที่พระภิกษุได้กล่าวสนทนาชื่นชมพระเถระในโรงธรรมสภาว่า “การที่ท่านธัมมิกเถระเป็นยอดกัลยาณมิตรของครอบครัว ได้เป็นที่พึ่งให้กับบุตรและภรรยา เพราะท่านเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อครั้งอยู่ทางโลกได้ทำหน้าที่ของอุบาสกแก้วได้อย่างสมบูรณ์ ได้สร้างครอบครัวเป็นครอบครัวแก้วครอบครัวตัวอย่างของโลก ครั้นออกบวชก็สามารถทำพระนิพพานให้แจ้ง และสามารถชักชวนสมาชิกในครอบครัวออกบวช จนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์กันหมดทุกคน นับเป็นตัวอย่างของผู้นำครอบครัวที่ดี ที่สามารถนำพาทุกคนให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง”

พระบรมศาสดาได้เสด็จมาตรัสถามว่า “ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอกำลังนั่งสนทนาเรื่องอะไรกันอยู่” เมื่อภิกษุกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว จึงตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาว่าบัณฑิตไม่พึงปรารถนาความสำเร็จเฉพาะตนอย่างเดียว ไม่พึงปรารถนาความสำเร็จเฉพาะคนอื่นเท่านั้น แต่พึงเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรมด้วย ขณะเดียวกันบัณฑิตไม่พึงทำบาป เพราะตนหรือผู้อื่นเป็นเหตุ ไม่พึงปรารถนาบุตร ทรัพย์ แว่นแคว้น และความสำเร็จเพื่อตนโดยไม่ชอบธรรม บัณฑิตพึงเป็นผู้มีศีล มีปัญญา ตั้งอยู่ในธรรม” จากนั้นได้แสดงอริยสัจสี่ให้พุทธบริษัทได้รับฟัง เมื่อจบพระธรรมเทศนา มหาชนได้บรรลุอริยผลกันเป็นจำนวนมาก

เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของครอบครัวแก้วที่ทุกคนได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ได้บรรลุพระอรหัตผลอันเลิศ เป็นครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย ครอบครัวตัวอย่างของโลกที่น่าสรรเสริญ เพราะแต่ละท่านได้เข้าถึงความเต็มเปี่ยมของชีวิต ไม่ปล่อยชีวิตให้ผ่านไปเปล่า อยู่ทางโลกก็ไม่ช้ำ อยู่ทางธรรมก็ไม่เสีย เพราะฉะนั้น ขอฝากไปถึงคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นผู้นำครอบครัวในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ อย่าได้มัวแต่ทุ่มเททำธุรกิจเพื่อหาทรัพย์มาหล่อเลี้ยงครอบครัวอย่างเดียว ต้องรู้จักหาอริยทรัพย์ใส่ตัว เพื่อสอนบุตรธิดาให้เข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ให้เขามีความรู้คู่คุณธรรม มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ หากมีลูกชายให้พามาบวชพระบวชเณร ให้พระท่านช่วยอบรม มีลูกสาวให้พามาอบรมธรรมทายาทหญิง จะได้เป็นกุลสตรีหรืออุบาสิกาแก้ว เพื่อการดำเนินชีวิตในวัยรุ่น วัยหนุ่มสาวจะได้ไม่ผิดพลาด จะได้เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ครอบครัวสุขสันต์ที่ทุกคนในครอบครัวได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ทั้งพ่อแม่ลูกอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เพราะได้สั่งสมบุญบารมี และได้ประพฤติธรรมกันถ้วนหน้า

ไม่มีความคิดเห็น: